เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก

(คปอ.)

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

แถลงข่าว..คัดค้านการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงาน

โพสต์เมื่อ 14 ก.ย. 52

ชาวบ้านระยอง นัดรวมตัวคัดค้านการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงาน โดยขอให้รอแผนลดและขจัดมลพิษเสร็จก่อน ขู่หากดื้อเตรียมพร้อมชุมนุมเคลื่อนไหวแน่ 9 ก.ย.นี้ที่บริเวณอุตสาหกรรมมาบตาพุด



นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก กล่าวถึง กรณีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้มีการออกใบอนุญาตแก่โรงงานที่ผ่านการรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว(EIA.) ทั้งหมด 55 โครงการ เม็ดเงินการลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท โดยไม่ยึดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่ารัฐบาลส่งเรื่องให้ กฤษฎีกาตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ผลกฤษฎีกาตีความไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้

กรณีดังกล่าวในเรื่องกฎหมายนั้น ตามหลักกฎหมายต้องมีการถกเถียงต่อไป เพราะการตีความของกฤษฎีกา ไม่ใช่หน้าที่ ซึ่งหน้าที่ดังกล่าว ต้องเป็นหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยเป็นการอาจเอื้อมไปตีความแทนศาลรัฐธรรมนูญ และกฤษฎีกาซึ่งเป็นนักกฎหมายของรัฐ ไปตีความแทนศาลรัฐธรรมนูญ ในทางที่ไม่ตรงกับเจตจำนงของมาตรา 67 อาจจะมีผลในทางปฏิบัติได้

นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า หลัง กรอ.มีมติเมื่อวันที่19 สิงหาคม ที่ผ่านมา เครือข่ายฯได้ยื่นหนังสือไปที่ นายนิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ตรวจสอบ และทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนมติกรอ.ใหม่ ว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และในวันที่ 21 สิงหาคมนี้ ในนามเครือข่ายสิ่งแวดล้อมไทยทั่วประเทศ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรีที่รัฐสภา ให้ทบทวนมติ กรอ. โดยให้ยึดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ทุกขั้นตอนที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ

“หากรัฐบาลไม่ดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญมาตรา 67 และยังเดินหน้าขยายโรงงานอุตสาหกรรม มีการออกใบอนุญาตเมื่อไหร่ จะฟ้องศาลปกครอง จะฟ้องศาลยุติธรรม ฟ้องอาญาต่อหน่วยงานที่ออกใบอนุญาต ให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยละเลยกฎหมาย มีความผิดตามกฎหมายอาญาหลายมาตรา พร้อมแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่เป็นผล ในวันที่ 9 กันยายน เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก จะเคลื่อนไหวชุมนุมครั้งใหญ่ ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด” นายสุทธิกล่าว

นายสุทธิกล่าวว่า เหตุผลในการชุมนุมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ คือต้องการให้รัฐบาลยึดหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในการปฏิบัติหน้าที่ ประชาชนไม่ได้ขัดขวางการลงทุน แต่การลงทุนจะเกิดขึ้นได้ต้องผ่านขบวนการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 67 อย่างชัดเจน โดยการชุมนุมจะใช้เวลา และการชุมนุมครั้งนี้อาจยืดเยื้อแน่นอน หากมีการออกใบอนุญาตตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะมีการปิดล้อมท่าเทียบเรือมาบตาพุด ปิดล้อมนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และปิดล้อมโรงงานแห่งใหม่ให้เป็นสัญลักษณ์ ว่านี่คือวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้ปฏิบัติตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 และเป็นการส่งสัญญาณให้นักลงทุนเห็นว่า ปัญหามลพิษยังไม่ได้แก้ไข แต่มาเร่งเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อม อาจจะเป็นปัญหาในระยะยาว

“ในความเป็นจริงแล้ว โรงงานต่างๆสามารถขยายหรือเข้ามาลงทุนได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย จริงๆ แล้วควรให้ประชาชนชาวระยอง จัดทำแผนลดและขจัดปัญหามลพิษเสร็จก่อนจะถูกต้อง โดยไม่ใช่จะทำอะไรโดยไม่สอบถามประชาชนในพื้นที่เลย ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง” นายสุทธิ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น