เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก

(คปอ.)

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ยื่นหนังสือ คัดค้านการอนุมัติสร้างโรงงาน

โพสต์เมื่อ 14 ก.ย. 52

ชาวระยองบุกยื่นหนังสือผู้ว่าฯจี้รัฐทบทวน รง.ก่อมลพิษ


“อัญชลี-เทอดภูมิ” ขึ้นปราศรัยเรียกร้องให้ชาวระยองร่วมออกมาต่อสู้กับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลูกหลาน ด้าน “สุทธิ อัชฌาศัย” พร้อมกับประชาชนเดินเท้าไปยื่นหนังสือให้ผู้ว่าฯระยองให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาและบริษัท ไออาร์พีซี ถึงเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม


วันนี้ (9 ก.ย.) เวลา 13.00 น.บรรยากาศการชุมนุม คัคค้านการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม ที่บริเวณสี่แยกเนินสำลี จังหวัดระยอง เริ่มคึกคัก เนื่องจาก นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก และนายเทอดภูมิ ใจดี เดินทางมาร่วมเวทีปราศรัยและให้กำลังใจชาวภาคตะวันออก

โดย นางสาวอัญชะลี ได้ขึ้นเวทีปราศรัย เรียกร้องให้ประชาชนชาวจังหวัดระยอง และภาคตะวันออก ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งปัญหามลพิษให้มากกว่านี้ เพราะนักลงทุนที่มาลงทุนก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมนั้น นักลงทุนที่มาก่อสร้างโรงงานแล้ว กลุ่มพวกนั้นไม่ได้อยู่หรือพักอาศัยในจังหวัดระยองเลย แต่ประชาชนชาวจังหวัดระยอง ต้องอยู่ที่นี่และอยู่ตลอดไป แต่หากมีโรงงานและมีมลพิษเพิ่มขึ้นอีกแล้วประชาชนจะอยู่กันได้อย่างไร

ดังนั้น จึงต้องออกมาเพื่อต่อต้านคัดค้านโรงงานที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ในเรื่องมลภาวะเป็นพิษที่มาบตาพุดนั้นเป็นปัญหายืดเยื้อมานานนับกว่า 20 ปี เป็นปัญหาที่เรื้อรัง ถ้าประชาชนไม่ออกมาเรียกร้องด้วยตนเอง รวมตัวกันให้เป็นพลังที่เข้มแข็ง พี่น้องชาวระยองก็จะต้องอยู่กับมลภาวะเป็นพิษเช่นนี้ตลอดไป ส่วนนักการเมืองท้องถิ่นที่รับปากว่าจะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ เมื่อไม่เข้ามาแก้ปัญหาจริงจัง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็อย่าไปเลือกคนนั้นกลับเข้ามาอีก ให้หาคนดีดีในหมู่ชาวระยองเข้ามาทำหน้าที่นี้แทน เพื่อลูกเพื่อหลานของชาวระยองเอง”

ด้าน นายเทอดภูมิ ใจดี กลุ่มพันธมิตรฯได้ขึ้นเวทีปราศัยพบปะกับประชาชนพี่น้องชาวเมืองระยองและพื้นทีที่มารวมตัวคัดค้านโรงงานอุตสาหกรรมที่จะเกิดเพิ่มมากขึ้น ว่า ปัจจุบันมนุษย์ทำร้ายสิ่งแวดล้อม และไม่มีการปกป้องดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป เช่น ภาวะโลกร้อน, น้ำแข็งขั้วโลกละลาย สร้างปัญหาและผลกระทบไปทั่วโลก

การต่อสู้นี้ ครั้งนิ้ไม่ใช่เฉพาะคนจังหวัดระยองเท่านั้น ที่จะต้องออกมาต่อสู้ แต่ต้องเป็นคนทั้งประเทศที่ต้องออกมาต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะปัญหามลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันเป็นปัญหาหลักที่ต้องร่วมกันแก้ไข ทั้งทางด้าน น้ำ, อากาศ และดิน ไม่ใช่ทางด้านเศรษฐกิจแล้ว

นายเทอดภูมิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่เข้าใจถึงปัญหาด้านมลพิษ โดยมุ่งเพียงจะหารายได้เท่านั้น แต่ไม่ได้คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเลย โดยปัญหาสิ่งแวดล้อม เปลี่ยนเสมือนชีวิต ซึ่งใครไปทำลายสิ่งแวดล้อม ผลกระทบก็จะเกิดขึ้นกับสิ่งมีชีวิตในหลายรูปแบบ ทั้งมนุษย์และสัตว์

เวลา 15.30 น.นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาค ได้พาประชาชนชาวระยองและจังหวัดใกล้เคียงเดินทางไปยังศูนย์ราชการจังหวัดระยอง เพื่อยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ทุกปราการ

โดยมีสำเนาข่าวที่เกี่ยวกับมติ (กรอ.) จำนวน 6 ฉบับ เนื่องจากคณะกรรมการร่วมรัฐเอกชน(กรอ.) ที่ได้มีมติการประชุมเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2552 ที่ผ่านมา ให้ดำเนินการออกใบอนุญาตก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงองค์ประกอบของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ซึ่งอ้างว่า ได้ขอความเห็นจากสำนักงานกฤษฎีกาแล้วจึงทำให้ให้เห็นว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการบริหารประเทศโดยไม่คำนึงถึงรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศแต่อย่างใด อันเป็นการบริหารประเทศที่มิได้มีความชอบธรรมและมิได้ยึดหลักนิติรัฐในการบริหารประเทศตามที่ได้แถลงไว้ในนโยบายของรัฐบาลเลย

ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ในฐานะของฝ่ายปฏิบัติช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาลให้ทบทวนมติคณะกรรมการร่วมรัฐเอกชน (กรอ.) และสมควรผลักดันให้รัฐบาลดำเนินการให้ออกกฎหมายหรือระเบียบอื่นใดก็ตามให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ทุกขั้นตอนอย่างสมบูรณ์ต่อไป

นายสุทธิ กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการเผาโลงเผาของพวกทำลายธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมจังหวัดระยอง

“ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะให้เวลารัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) หากรัฐบาลยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน เราจะมีการยกระดับการชุมนุมที่ยืดเยื้อต่อไป”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น